เมนู

บทว่า สตฺถริ อคารวา วิหรนฺติ อปฺปติสฺสา ความว่า ย่อม
ไม่ตั้งความเคารพและความเป็นใหญ่ไว้ในพระศาสดา. แม้ในบทที่เหลือก็นัยนี้
เหมือนกัน.
ในบทเหล่านั้น ภิกษุเมื่อเดินกั้นร่ม สวมรองเท้าที่ลานพระเจดีย์
เป็นต้นก็ดี พูดเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์มีประการต่าง ๆ ก็ดี ชื่อว่าไม่เคารพ
ในพระศาสดา. อนึ่ง นั่งหลับในโรงฟังธรรมก็ดี พูดเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์
มีประการต่าง ๆ ก็ดี ชื่อว่าไม่เคารพในพระธรรม. เมื่อพูดถึงเรื่องต่าง ๆ
ยกแขนส่ายในท่ามกลางสงฆ์ ไม่ทำการยำเกรงในภิกษุผู้เถระ ผู้นวกะ (ผู้ใหม่)
และผู้มัชฌิมะ (ผู้ปานกลาง) ชื่อว่าไม่เคารพในสงฆ์อยู่. เมื่อไม่ทำสิกขาให้
บริบูรณ์ ชื่อว่า ไม่เคารพในสิกขา เมื่อทำการทะเลาะบาดหมางเป็นต้น
กะกันและกัน ชื่อว่าไม่เคารพกันและกัน.
จบอรรถกถากิมพิลสูตรที่ 1

2. ธัมมัสสวนสูตร


ว่าด้วยอานิสงส์แห่งการฟังธรรม 5 ประการ


[202] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ในการฟังธรรม 5 ประการนี้
5 ประการเป็นไฉน คือ ผู้ฟังย่อมได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง 1 ย่อมเข้า
ใจชัดสิ่งที่ได้ฟังแล้ว 1 ย่อมบรรเทาความสงสัยเสียได้ 1 ย่อมทำความ
เห็นให้ตรง 1 จิตของผู้ฟังย่อมเลื่อมใส 1
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์
ในการฟังธรรม 5 ประการนี้แล.
จบธัมมัสสวนสูตรที่ 2
สูตรที่ 2 อรรถกถาว่ามีเนื้อความง่ายทั้งนั้น.

3. อาชานิยสูตร


ว่าด้วยองค์ 5 ของม้าอาชาไนย


[203] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ม้าอาชาไนยตัวเจริญของพระราชา
ประกอบด้วยองค์ 5 ประการ ย่อมควรแก่พระราชา ควรเป็นม้าทรง ย่อม
ถึงความนับว่าเป็นราชพาหนะ องค์ 5 ประการเป็นไฉน ? คือ ความซื่อ
ตรง 1 ความวิ่งเร็ว 1 ความอ่อนโยน 1 ความอดทน 1 ความเสงี่ยม 1
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ม้าอาชาไนยตัวเจริญของพระราชา ประกอบด้วยองค์ 5
ประการนี้แล ย่อมควรแก่พระราชา ควรเป็นม้าทรง ย่อมถึงการนับว่า เป็น
ราชพาหนะ.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม 5 ประการ ฉันนั้น
เหมือนกัน ย่อมเป็นผู้ควรแก่ของคำนับ ควรแก่ของต้อนรับ ควรแก่ของทำ
บุญ ควรกระทำอัญชลี เป็นนาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ธรรม 5
ประการเป็นไฉน ? คือ ความซื่อตรง 1 ความเร็ว 1 ความอ่อนโยน 1
ความอดทน 1 ความเสงี่ยม 1
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม
5 ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้ควรแก่ของคำนับ ควรแก่ของต้อนรับ ควรแก่
ของทำบุญ ควรกระทำอัญชลี เป็นนาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า.
จบอาชานิยสูตรที่ 3